ครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ของ การชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน

ครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 1

งานครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 1 จัดขึ้นที่อาคารธันเดอร์โดม ภายในเมืองทองธานี เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เพื่อรำลึกถึงวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ระหว่างเวลา 12.00-18.00 น. โดยมีกลุ่มพิธีกร และ นปช.ขึ้นปราศรัยหลายคน ตามลำดับดังนี้ นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวีระ มุสิกพงศ์, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย, นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ประธานมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 40,000 คน ภายในงานมีการจำหน่ายเสื้อโปโล และเสื้อยืดสีแดง ที่มีสัญลักษณ์ของรายการฯ ในราคาย่อมเยา นอกจากนี้ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำศูนย์เฝ้าระวังการรัฐประหารแห่งชาติ ยังได้นำสติกเกอร์ เบื่อม็อบพันธมิตร มาแจกจ่ายภายในงานด้วย

ครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2

งานครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “ความจริงวันนี้ ต้านรัฐประหาร” จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ระหว่างเวลา 17.00-23.00 น. ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ภายในสนามกีฬาหัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย ถนนรามคำแหง (ประตูเปิดประมาณ 15.00 น.) มีผู้ร่วมงานประมาณ 100,000 คน[1] ก่อนเริ่มงาน ในเวลาประมาณ 13.00 น. มีการประกอบพิธีทางศาสนาพราหมณ์ โดยมีผู้จัดรายการ และ นปช.ขึ้นปราศรัย ตามลำดับดังนี้ นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายจาตุรนต์ ฉายแสง, นายวีระ มุสิกพงศ์, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และนายอดิศร เพียงเกษ

เนื้อหาในการปราศรัย ได้กล่าวถึงการบริหารประเทศที่ประสบความสำเร็จ ในสมัยที่ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี, การต่อต้านรัฐประหาร, โจมตีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในประเทศ ทั้งนี้ ในช่วงท้าย เวลา 22.45 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ขึ้นร้องเพลง รักสาวเสื้อแดง ที่เขาแต่งเนื้อร้องด้วยตนเอง โดยดัดแปลงจากเพลงเดิม ให้มีเนื้อหาเข้ากับกิจกรรมของงานด้วย จากนั้น ผู้ปราศรัยขึ้นขอบคุณประชาชน ก่อนปิดงาน ภายในงานมีการจำหน่ายเสื้อสีแดง, ตีนตบ, หนังสือ และมีการแจกวีซีดี พันธมิตรฆ่าประชาชน ด้วย

โดยช่วงสำคัญของงานครั้งนี้ อยู่ที่การปราศรัยทางโทรศัพท์ ของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร โดยมีนายวีระ เป็นผู้สัมภาษณ์บนเวที โดย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ได้กล่าวถึง การสร้างความสามัคคี ว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนควรปฏิบัติ[1]

โดยตอนแรกนั้นพิธีกรรายการความจริงวันนี้มาเยี่ยม นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และได้เล่าถึงงานรายการครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร จึงอยากให้บรรยากาศการสนทนาครึกครื้น จึงพูดกระเซ้าขึ้นว่า ถ้าหายดีจะไปขึ้นเวทีร้องเพลงสัก 1-2 เพลง ต่อมาคนก็ถามถึงข่าวที่ว่าตนจะไปร่วมงานนี้ ระหว่างพักฟื้นแพทย์คงไม่ยอมให้ตนไปแน่นอน

ครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ภาคพิเศษ

งานครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ภาคพิเศษ คณะผู้จัดรายการฯ ได้รับความอนุเคราะห์จาก พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ) ให้จัดขึ้นที่วัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ตั้งแต่เวลา 13.00-17.00 น. โดยพระราชธรรมนิเทศได้ให้ข้อกำหนดของรายการครั้งนี้ว่า ต้องไม่มีการปราศรัยเพื่อปลุกระดมทางการเมือง ไม่มีการโทรศัพท์ข้ามประเทศของอดีตนายกรัฐมนตรี และไม่อนุญาตให้นำเท้าตบเข้ามาในวัด หากฝ่าฝืน พระพยอมมีสิทธิ์ยุติรายการครั้งนี้ได้ทันที[ต้องการอ้างอิง] มีผู้ร่วมงานประมาณ 30,000 คน[ต้องการอ้างอิง]

งานเริ่มต้นด้วยการทอดผ้าป่าสามัคคีเมื่อเวลา 12.30 น. จากนั้น พระพยอมได้ขึ้นเวที เพื่อเทศน์เตือนสติกลุ่มการเมืองทั้งสองฝ่าย จากนั้น เป็นการเสวนาของผู้ดำเนินรายการ และพระพยอม ต่อด้วยการปราศรัยของวิทยากรหลายท่าน ได้แก่ นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ นายอดิศร เพียงเกษ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายจักรภพ เพ็ญแข [ต้องการอ้างอิง]

ทั้งนี้ ก่อนที่งานจะสิ้นสุด เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. พระพยอม กัลยาโณ ได้ขึ้นเวที เพื่อเทศน์ให้เหล่าประชาชนได้รับฟังอีกครั้ง ทั้งนี้ ไม่มีการปราศรัยทางโทรศัพท์ ของทั้ง พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร และนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี แต่อย่างใด[ต้องการอ้างอิง]

ครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 3

งานครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่สนามศุภชลาศัย ภายใต้หัวข้อ “ความจริงวันนี้ ความจริงประเทศไทย” เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2551 มีประชาชนไปร่วมงานประมาณ 80,000 คน โดยมีวิทยากรขึ้นเวทีปราศรัยหลายราย ได้แก่ นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวีระ มุสิกพงศ์, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และนายอดิศร เพียงเกษ โดยในงานครั้งนี้ ไม่มีการโฟนอินจาก พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการเปิดวีทีอาร์แทน

โดยภายหลังเปิดวีซีดี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ จบ นายวีระกล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมทีเดียว พวกตนจะให้ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ปราศรัยสดผ่านโทรศัพท์ แต่ ก็ถูกมองว่าจะทำให้เกิดปัญหา ฝ่ายตรงข้ามซึ่งจ้องจะขย้ำ และมีเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับการแย่งซีนจัดตั้งรัฐบาล แต่ความจริงแล้ว พวกตนกำลังมองถึง ข้อเสนอของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่ต้องการให้การจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ ซึ่งนายเสนาะ และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ขอร้อง พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ว่าอย่าโฟนอิน เพื่อให้ทั้งสองคน มีความน่าเชื่อถือในการจัดตั้งรัฐบาล

ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ โทรมาปรึกษาตน และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อว่า การที่นายเสนาะ และ พล.ต.อ.ประชา ขอแลกการโฟนอิน กับการให้ฝ่ายพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้ ตนจึงแนะนำ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ว่า ถ้าโมโหโกรธาเรื่องอะไร ก็ให้ระบายกับตน แต่หากการงดโฟนอินแล้ว ทำให้ฝ่ายพรรคเพื่อไทย ได้รับชัยชนะในการโหวตเลือกนายกฯ ก็ควรจะทำ และขอฝากไปยังพรรคเพื่อแผ่นดินว่า สัญญาต้องเป็นสัญญาลูกผู้ชาย เบี้ยวไม่ได้ หักหลังไม่ได้ หากวันจันทร์นี้ มีการหักหลังเกิดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็จะพบกับการรวมตัวของคนเสื้อแดงทั้งประเทศ

โดยนายวีระกล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ มีผู้พยายามจะบล็อกสัญญาณการถ่ายทอดสด ทั้งทางอินเทอร์เน็ต, วิทยุชุมชน, เคเบิลทีวี (สถานีโทรทัศน์เอ็มวีทีวี ช่อง 5) เพื่อปิดกั้นไม่ให้ประชาชนได้ชมการปราศรัย และการปราศรัยทางโทรศัพท์ ของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ รวมทั้งได้มีการปล่อยข่าวว่า เกิดเหตุปะทะกัน ระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดง กับเด็กช่างกลด้วย เพื่อสร้างความหวาดกลัวแก่ผู้ชุมนุม

ครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 4

งานครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 4 ภายใต้หัวข้อ “ความจริงประเทศไทย ไม่ไว้วางใจอภิสิทธิ์” จัดขึ้นที่ท้องสนามหลวง ในวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551 โดยเริ่มเปิดเวทีตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้ กลุ่มแนวร่วมคนเสื้อแดงจะปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ และเคลื่อนการชุมนุมไปยังหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อคัดค้านการแถลงนโยบาย ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และกดดันให้นายอภิสิทธิ์ประกาศยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ และจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนมากของประชาชน ตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยที่แท้จริงต่อไป

ครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 5

งานครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 5 ภายใต้หัวข้อ "แดงทั้งแผ่นดิน" จัดขึ้นที่ท้องสนามหลวง ในวันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2552 โดยเริ่มเปิดเวทีตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป มีจุดหมายหลักเพื่อปราศรัยโจมตีความไม่ชอบธรรมของการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และเคลื่อนพลออกจากท้องสนามหลวงไปยังทำเนียบรัฐบาล

ครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 6

งานครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 6 ภายใต้หัวข้อ "แดงทั้งแผ่นดิน" จัดขึ้นที่ท้องสนามหลวง ในวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 เพื่อทวงคำตอบ 4 ข้อ จากรัฐบาล ที่เคยเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ยึดสนามบิน และทำเนียบรัฐบาล การปลดนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกจากตำแหน่ง การให้ใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และการยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน โดยขอให้รัฐบาลเตรียมคำตอบให้ดี

ทั้งนี้ แกนนำ นปช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีการนัดหมายกันในเวลา 9.00 น. ที่ท้องสนามหลวง ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมาที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 10.00 น. โดยให้จัดเตรียมเสื้อผ้ามาด้วย เพราะการชุมนุมครั้งนี้อาจจะยืดเยื้อ

ต่อมาวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เมื่อเวลา 21.00 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ประกาศแถลงการณ์ฉบับที่ 2 โดยระบุว่าเพื่อยกระดับการต่อสู่ในการขับไล่รัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ได้มาโดยความไม่ชอบธรรม ที่เกิดจากการแทรกแซงสถาบัน องค์กรอิสระ ทั้งตุลาการ ทหาร และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ดังนั้นการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ขาดความชอบธรรม

ทั้งนี้ แกนนำ นปช. กล่าวต่อว่า โดยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้บริหารประเทศอย่างไร้ประสิทธิภาพ ทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการปฏิเสธข้อเรียกร้องของกลุ่มเสื้อแดง 4 ข้อ ดังนั้นกลุ่มนปช. ที่ได้ชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เพื่อทวงถามข้อเรียกร้อง จึงมีความชอบธรรมที่จะต่อสู้ขับไล่รัฐบาลเผด็จการอย่างถึงที่สุด และวันนี้จะเป็นการเริ่มต้นการใช้ยุทธศาสตร์ที่เข้มข้นขึ้น โดยจะมีการดำเนินการขับไล่รัฐบาลทั้งในสภา และนอกสภา ในเมือง และในชนบท ในประเทศ และต่างประเทศ จนกว่าจะได้รับชัยชนะ และขอเรียกร้องให้ประชาชนไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร ให้ออกมาร่วมกันขับไล่รัฐบาลเผด็จการ และต่อจากนี้ไปไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวถึงมาตรการต่อจากนี้ว่า กลุ่ม นปช.จะสลายการชุมนุมเช้าวันที่ 27 กุมภาพันธ์ และได้กล่าวถึงมาตรการในการดำเนินการต่อว่าคนเสื้อแดงขอสงวนสิทธิในการแสดงออกอย่างเปิดเผย เพื่อขับไล่รัฐบาลในทุกกรณี โดยปราศจากอาวุธ และจะจัดตั้งเครือข่ายแนวร่วม ให้แดงทั้งแผ่นดิน โดยจะใช้เวลาหนึ่งเดือนนับจากนี้ ขณะที่แกนนำก็จะลงพื้นที่ในทุกภาค เพื่อรวบรวมมวลชน และหลังจากนี้หนึ่งเดือนจะกลับมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล แบบยืดเยื้อ ไม่กลับบ้าน ไม่ชนะไม่เลิก